คำถามที่พบบ่อย

จ้างเรานี่แหละดีที่สุดครับ เราบริการเป็นกันเอง ดูแลให้ตลอดอายุการใช้งานครับไม่ต้องกังวันเรื่องนี้เลย

สามารถโทรสอบถามได้ทันที หรือ ส่งข้อมูลว่าต้องการทำอะไรบ้าง เพื่อทางเราจะได้เสอนราคาให้อย่างเหมาะสม

หรือรองดูที่นี่ครับ เว็บสำเร็จรูป  เราได้จัดทำไว้ให้พร้อมใช้งานในราคาถูก

ระบบ admin และเว็บไซต์ที่ไม่มีระบบ admin นั้นแตกต่างกันอย่างไรดังนี้:

ระบบ Admin:

  • ระบบ admin หมายถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการและควบคุมข้อมูลของเว็บไซต์ได้
  • ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าถึงส่วนที่มีความสำคัญเช่นการเพิ่มหรือแก้ไขเนื้อหา, การจัดการผู้ใช้, การตรวจสอบสถิติเว็บไซต์ เป็นต้น
  • ระบบ admin มักมีการตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงและการรับรองตัวตน เพื่อให้เฉพาะผู้มีสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงและดำเนินการในส่วนนี้ได้

เว็บไซต์ที่ไม่มีระบบ admin:

  • เว็บไซต์ที่ไม่มีระบบ admin หมายถึงเว็บไซต์ที่ไม่มีส่วนของการจัดการและควบคุมข้อมูลโดยตรงผ่านส่วน admin
  • มักใช้สำหรับเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการการอัพเดตหรือจัดการข้อมูลอยู่บ่อยครั้ง เช่นเว็บไซต์แสดงข้อมูลอย่างเท่าเทียมหรือเว็บไซต์แบบความคิดเห็นเป็นต้น
  • การปรับแต่งหรืออัพเดตเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ไม่มีระบบ admin จะต้องทำผ่านการแก้ไขโค้ดหรือการอัปโหลดไฟล์โดยตรง

ควรเลือกใช้ระบบ admin หรือไม่ใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความซับซ้อนของเว็บไซต์ของคุณ หากคุณต้องการความยืดหยุ่นและการควบคุมที่สูงในการจัดการเนื้อหาและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ระบบ admin จะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากคุณต้องการเว็บไซต์ที่เรียบง่ายและไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อมูลบ่อยครั้ง เว็บไซต์ที่ไม่มีระบบ admin อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับคุณ

งบที่ต้องใช้สำหรับการสร้างเว็บไซต์ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงการและความต้องการของคุณ นี่คือปัจจัยที่ส่งผลต่อการกำหนดงบประมาณสำหรับการสร้างเว็บไซต์ของตนเอง:

1. ประเภทของเว็บไซต์: ประเภทของเว็บไซต์ที่คุณต้องการจะมีผลต่องบประมาณ เช่นเว็บไซต์บริษัท, เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ, เว็บแบบบล็อก, เว็บแอปพลิเคชัน เป็นต้น

2. ฟีเจอร์และความซับซ้อน: ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมหรือระบบพิเศษในเว็บไซต์หรือไม่ เช่นระบบการชำระเงิน, ระบบการจัดการสมาชิก, การแสดงผลแบบไลฟ์สด เป็นต้น ฟีเจอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นอาจต้องการงบประมาณที่มากขึ้น

3. การออกแบบและสไตล์: ความซับซ้อนของการออกแบบและสไตล์ที่คุณต้องการสามารถส่งผลต่องบประมาณ เช่นการออกแบบกราฟิก, การสร้างโลโก้, การปรับแต่งสีและรูปแบบทั่วไปของเว็บไซต์

4. การพัฒนาซอฟต์แวร์: หากคุณต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มเติมหรือปรับแต่งตามความต้องการของคุณ เช่นระบบจัดการเนื้อหาที่ทันสมัย, การปรับแต่งเฟรมเวิร์ก เป็นต้น อาจต้องใช้งบเพิ่มเติม

5. การโฮสต์เว็บไซต์: ระบบโฮสต์เว็บไซต์ที่คุณเลือกจะมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็กเกจที่คุณเลือก

ระบบงบประมาณทั่วไปสำหรับการสร้างเว็บไซต์ของตนเองอยู่ในช่วง 5,000 - 25,000 หรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาว่างบประมาณของคุณเพียงพอที่จะเป็นไปตามความต้องการและคุณภาพที่คุณต้องการให้กับเว็บไซต์ของคุณ

รองรับทุกหน้าจอครับ การทำเว็บไซต์ที่รองรับการแสดงผลบนมือถือ (Mobile-friendly) เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีการเข้าถึงเว็บไซต์มากขึ้น

การสร้างเว็บไซต์คือกระบวนการที่ซับซ้อน หากคุณไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการทำเว็บไซต์ คุณอาจต้องพิจารณาจ้างนักพัฒนาเว็บไซต์หรือบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำครับ

เราเราดูแลให้ตลอดอายุการใช้งานครับไม่ต้องกังวันเรื่องนี้เลย

ทางเราปรับแต่งให้รองรับการค้นหาจาก google ซึ่งบ้างที่จะไม่มีให้ แต่เราพิเศษมีให้ เรามีเทคนิค แนะนำให้กับลูกค้าเราแน่นอน ไม่ห่วงวิชาครับ ลูกค้ามียอดขายเราจะดีใจปลื้มใจที่สุด เทคนิดต่างๆ เราสงวนให้กับลูกค้าเราเท่านั้น ท่านหมดกังวลคู่แข่งแน่นอนครับ

เมื่อลูกค้าอยู่คนละจังหวัดและต้องการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์ให้กับเรา สมัยนี้ไม่อยากแล้วครับ ลูกค้าสามารถส่งส่งข้อมูลทำเว็บไซต์ได้ทั้ง ทางไลน์ ทางเฟส ทางเมล์ ที่เหลือเราจัดการให้ครับ

หรือทางเลือกอื่นๆที่คุณสามารถใช้ได้เช่น:

1. ส่งข้อมูลผ่านอีเมล: ลูกค้าสามารถส่งไฟล์แนบหรือข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ผ่านทางอีเมล คุณสามารถแจ้งให้ลูกค้าส่งข้อมูลผ่านอีเมลที่คุณได้ระบุไว้ เช่น ทางอีเมลของคุณหรือทางอีเมลของทีมงานของคุณ

2. ใช้บริการแชทหรือแพลตฟอร์มการสื่อสารออนไลน์: ลูกค้าและคุณสามารถใช้บริการแชทออนไลน์หรือแพลตฟอร์มการสื่อสารอื่น ๆ เช่น Line, Skype, Zoom, Microsoft Teams, Google Meet เพื่อส่งข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการทำเว็บไซต์

3. ใช้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์: ลูกค้าสามารถอัปโหลดไฟล์หรือข้อมูลเว็บไซต์ไปยังบริการเก็บข้อมูลออนไลน์ เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดข้อมูลได้

4. ใช้บริการไฟล์แบบออนไลน์: ถ้าข้อมูลมีขนาดใหญ่หรือเป็นไฟล์ที่ต้องการแก้ไขร่วมกัน ลูกค้าสามารถใช้บริการไฟล์แบบออนไลน์ เช่น Google Docs, Microsoft Office Online เพื่อแชร์และแก้ไขข้อมูลร่วมกันกับคุณ

โดยการตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีการเตรียมความพร้อมและเลือกทางที่เหมาะสมในการจ้างทำเว็บไซต์และเป็นตัวอย่างเพียงส่วนนึง การเว็บไซต์มีความซับซ้อนและความต้องการที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ควรพิจารณาความต้องการและคำถามที่เกี่ยวข้องกับโครงการเว็บไซต์ของคุณ เรื่องการทำเว็บไซต์ เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์จะช่วยให้คุณได้คำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อตัดสินใจถูกต้องในการจ้างทำเว็บไซต์